คู่เงิน Forex : กลยุทธ์ที่ไม่น่ามองข้าม

คู่เงิน Forex หรือ Foreign Exchange เป็นการซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 6.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ! ด้วยสภาพคล่องที่สูงมาก จึงทำให้ตลาด Forex เป็นที่สนใจของนักลงทุนและนักเก็งกำไรจากทั่วทุกมุมโลก

คู่เงิน Forex

Forex คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ?

Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange หมายถึงการซื้อขายเงินตราต่างประเทศนั่นเอง เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล เฉลี่ยวันละ 6.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว!

ที่น่าสนใจก็เพราะมันเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงมากๆ สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีวันหยุด ทำให้นักลงทุนสามารถเข้ามาหากำไรได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่อย่างธนาคาร กองทุน หรือนักลงทุนรายย่อยทั่วไปก็สามารถเข้ามาเทรดได้

นอกจากนี้ Forex ยังมีความผันผวนสูง ราคาเคลื่อนไหวตลอดเวลา จึงมีโอกาสทำกำไรได้มหาศาลในเวลาอันสั้น (แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน) บวกกับต้นทุนในการเทรดต่ำ สเปรดแคบ ก็ยิ่งตอบโจทย์นักเก็งกำไรที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย ได้ลุ้นทำกำไรแบบระทึกใจไปเลยล่ะ

คู่เงินหลักๆ ในตลาด Forex มีอะไรบ้าง?

ในตลาด Forex จะมีคู่เงินให้เลือกเทรดเยอะแยะมากมาย แต่ที่นิยมและมีสภาพคล่องสูงสุดเห็นจะเป็น 4 คู่เงินหลักนี่แหละ ได้แก่

  • EUR/USD คู่เงินยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสกุลเงินหลักของโลก
  • USD/JPY คู่เงินดอลลาร์เทียบกับเยน ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดผันผวน นักลงทุนมักแห่ไปซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
  • GBP/USD คู่เงินปอนด์อังกฤษเทียบดอลลาร์ หรือที่เรียกติดปากกันว่า “เคเบิ้ล” ก็ผันผวนสนุกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่วงมีประเด็นการเมืองหรือเศรษฐกิจใหญ่ๆ
  • USD/CHF คู่เงินดอลลาร์เทียบฟรังก์สวิส ซึ่งฟรังก์ก็ขึ้นชื่อเรื่องเป็นสกุลเงินปลอดภัยอีกเช่นกัน มักแข็งค่าในยามตลาดผันผวน

นอกจากนี้ยังมีคู่เงินรอง ที่เป็นคู่เงินโลกกับค่าเงินประเทศอื่นๆ ไม่ว่าแคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซื้อขายกันคึกคักเหมือนกันนะ

คู่เงิน Forex ทำงานยังไง?

เวลาเราเห็นคู่เงินอย่างเช่น EUR/USD ตัวเลขที่ตามมาคือราคาของคู่เงินนั้น โดยสกุลเงินด้านหน้า (EUR) เรียกว่าสกุลเงินฐาน (Base Currency) ส่วนด้านหลัง (USD) เป็นสกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency)

ถ้าเรามองว่าสกุลเงินฐานจะแข็งค่าขึ้น เราก็จะกดซื้อ (Buy) แต่ถ้ามองว่ามันจะอ่อนค่าลง ก็กดขาย (Sell) ไป การซื้อขายจะเป็นแบบคู่ เช่น ถ้าซื้อ EUR/USD ก็เท่ากับไปขาย USD/EUR ในเวลาเดียวกัน

เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้ เช่น ซื้อไว้ที่ 1.1000 ราคาขยับขึ้นมาที่ 1.1100 เราก็จะได้กำไร 100 pips (ในที่นี้ 1 pip = การเปลี่ยนแปลง 0.0001) แต่ถ้าราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่เราคิด เช่น ลงมาที่ 1.0900 เราก็จะขาดทุน 100 pips

ส่วนจำนวนเงินที่ได้หรือเสียในแต่ละ pip จะขึ้นอยู่กับขนาดสัญญาที่เปิด (Lot Size) โดย 1 Standard Lot เท่ากับมูลค่า 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน ส่วนใหญ่นักลงทุนรายย่อยมักเทรดขนาด Micro Lot (0.01 Lot) กันซึ่งเท่ากับ 1,000 หน่วยสกุลเงินฐาน

แค่นี้พอเห็นภาพคร่าวๆ แล้วใช่มั้ยล่ะว่าคู่เงิน Forex มันซื้อขายกันยังไง ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจพื้นฐานให้ดีก่อนจะลงสนามจริงนะ

ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของคู่เงิน Forex?

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการขยับตัวของค่าเงินในตลาด Forex นั้นมีอยู่เยอะเลย ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค แต่วันนี้เราจะโฟกัสไปที่ปัจจัยพื้นฐานกันก่อน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

  1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ตัวเลข GDP, อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน, ยอดค้าปลีก ฯลฯ ถ้าออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินก็มีแนวโน้มแข็งค่า แต่ถ้าแย่กว่าที่คิด ค่าเงินก็อาจอ่อนค่าลง
  2. นโยบายทางการเงิน โดยเฉพาะการปรับอัตราดอกเบี้ยและโปรแกรม QE ของธนาคารกลาง ถ้าดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินก็มักจะแข็งค่าตาม เพราะนักลงทุนอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  3. สถานการณ์ทางการเมือง เรื่องการเมืองใหญ่ๆ อย่างสงคราม จลาจล หรือความไม่สงบต่างๆ ก็ส่งผลต่อค่าเงินแบบสุดๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นประเทศหลักอย่างสหรัฐฯ หรืออังกฤษ ตลาดก็จะผันผวนตามไปด้วย
  4. ความเสี่ยงและมุมมองตลาด บางครั้ง Sentiment ของตลาดก็มีผล ถ้านักลงทุนรู้สึกกลัวความเสี่ยง เค้าก็มักไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตร เยน หรือฟรังก์สวิส ค่าเงินพวกนี้ก็จะแข็งค่าขึ้น

นี่เป็นแค่ปัจจัยหลักๆ เอาไว้ให้เข้าใจคร่าวๆ นะ เพราะความจริงแล้ว มันมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ กว่าจะเทรดเป็นต้องศึกษากันไปเรื่อยๆ ล่ะ ไม่งั้นโดนตลาดจกตาแน่นอน!

เทรด Forex มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วล่ะสิว่า เทรด Forex นี่มันดียังไง และมีข้อเสียอะไรบ้าง เดี๋ยวเราไล่มาทีละอย่างกันเลย

ข้อดีของการเทรด Forex:

  • สภาพคล่องสูงมาก เปิดเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะเข้ามาเก็งกำไรตอนไหนก็ได้
  • เงินลงทุนน้อยก็เทรดได้ ไม่ต้องใช้ทุนเยอะ ใครอยากลองศึกษา ทดลองเล่นก็ทำได้ง่าย
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ มีเครื่องมือเทรดและแพลตฟอร์มให้เลือกใช้เพียบ
  • มีโอกาสกำไรได้ทั้งตอนตลาดขึ้นและตก เพราะเปิดออเดอร์ได้ทั้ง Buy และ Sell
  • ตลาดผันผวนสูง มีโอกาสทำกำไรได้มากในเวลาสั้นๆ (ถ้าคาดการณ์ถูก)

ส่วนข้อเสียก็มีเหมือนกันนะ:

  • ความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ใจร้อน คุมอารมณ์ไม่อยู่
  • ต้องศึกษาเยอะ ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน กว่าจะเป็นเซียนต้องใช้เวลา
  • มีเรื่องอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ โลภมาก ไม่รู้จักตัดขาดทุน ก็พังได้
  • หลายคนขาดวินัย ไม่วางแผน เทรดไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็เจ๊งยับ
  • ตลาด Forex ไร้การควบคุม โบรกเกอร์บางเจ้าก็หลอกลวง โกงเงินหนีหายก็มี

จะเห็นว่ามีทั้งข้อดีข้อเสียปนเปกันไป แต่ปัญหาหลายอย่างจะหมดไปถ้าเรามีความรู้ มีวินัย และเลือกโบรกเกอร์ที่ดีนะ อย่าได้ประมาทคิดว่ามันง่าย เพราะความเสี่ยงมันสูงมากจริงๆ

เริ่มต้นเทรด Forex ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

สำหรับใครที่สนใจจะเริ่มต้นเทรด Forex ล่ะก็ เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน ว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ถึงจะพร้อมลุยสู่สมรภูมิได้อย่างมั่นใจ เอาล่ะ ไปดูกันเลย!

  1. ศึกษาหาความรู้ให้เยอะ ทั้งแนวคิดพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค/ปัจจัยพื้นฐาน เรียนรู้จากหนังสือ คอร์สออนไลน์ ห้องเรียนจริงก็ได้
  2. เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดี ค่าเทรดถูก แพลตฟอร์มใช้งานง่าย แถมมี Demo Account ให้ลองเล่นด้วย จะได้ไม่เสี่ยงโดนโกง
  3. ลองเปิดบัญชีจำลอง Demo Account ก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับ Platform เรียนรู้วิธีเปิด-ปิดออเดอร์ ตั้งค่า Stop Loss/Take Profit จนเทรดคล่อง
  4. เริ่มต้นด้วยเงินทุนเล็กๆ ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ เทรดด้วยวินัย อย่าโลภเทรดเยอะเกินตัว รู้จักกระจายความเสี่ยงบ้าง
  5. สร้างกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง ตั้งเป้าหมายผลกำไรที่อยากได้ในแต่ละวัน ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าเสียใจเวลาขาดทุน ค่อยๆ แก้ไขไป
  6. ติดตามข่าวสารต่างๆ ที่จะส่งผลต่อค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย สถานการณ์การเมือง รู้ทันเหตุการณ์จะปรับกลยุทธ์ได้ทัน
  7. ฝึกใช้เครื่องมือช่วยเทรด เช่น โปรแกรมวิเคราะห์กราฟ ตัวบอกสัญญาณเทรด ระบบอัตโนมัติบางอย่าง จะช่วยให้การเทรดสะดวกขึ้น

เห็นมั้ยล่ะว่ามีหลายอย่างเลยที่ต้องเตรียมพร้อม ใครคิดว่าแค่มีเงินแล้วจะรวยปุ๊บปั๊บคงต้องคิดใหม่ แต่ถ้าตั้งใจศึกษาและอดทนฝึกฝน สักวันก็ต้องรวยจากการเทรด Forex ได้แน่นอน ลุยกันเลย!

เคล็ดลับและข้อควรระวังในการเทรด Forex

เอาล่ะ มาถึงหัวข้อสุดท้ายแล้ว เราจะมาแชร์เคล็ดลับเด็ดๆ และเตือนข้อควรระวังในการเทรด Forex กัน จะได้เอาไปใช้ได้จริง แถมหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้ด้วย มาดูกันเลยดีกว่า!

เคล็ดลับการเทรด Forex:

  • วางแผนการเทรดให้ดี กำหนดเป้าหมาย วงเงินเสี่ยง และกลยุทธ์ในแต่ละวัน เทรดให้ได้ตามนั้น
  • ตัดสินใจด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ ไม่ใช่เห็นราคาวิ่งแล้วตามเข้าไปซื้อขายแบบไร้สติ
  • จดบันทึกการเทรดทุกครั้ง ทั้งกำไร-ขาดทุน เอาไว้วิเคราะห์ผลลัพธ์ย้อนหลัง จะได้พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ
  • อย่าเทรดสวนเทรนด์ใหญ่ ถ้าตลาดกำลังขึ้น ก็ควรหา Buy เข้า ถ้ากำลังตก ก็มองหา Sell มากกว่า
  • ใช้ Stop Loss ทุกครั้ง เพื่อจำกัดความเสี่ยง อย่าปล่อยให้ขาดทุนลุกลามจนเกินควบคุม
  • อย่าลืมปิดออเดอร์ทำกำไรบ้าง ด้วยการตั้ง Take Profit ไว้ หรือถอนกำไรทันทีที่ได้ตามเป้า

ข้อควรระวังในการเทรด Forex:

  • ระวังการเทรดด้วยเงินที่ไม่ได้มีไว้เสี่ยง อย่าเอาเงินค่าเทอม ค่าผ่อนบ้าน มาเล่นเด็ดขาด!
  • อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่ามีสูตรลับ เทรดยังไงก็รวย มันไม่มีจริงหรอก ระวังถูกหลอก
  • หลีกเลี่ยงการเทรดตามข่าวลือ รอให้มีข่าวออกมาชัดเจนก่อนค่อยตัดสินใจเทรด
  • อย่าโลภจนเทรดเกินกำลังทรัพย์ที่มี ควรเทรดแค่ 2-5% ของทุนต่อออเดอร์ เพื่อป้องกันการขาดทุนหนัก
  • คำนวณอัตรากำไร/ขาดทุนให้ดีก่อนเปิดออเดอร์ อย่าเปิดแบบขาดๆ เกินๆ โดยไม่รู้ความเสี่ยง
  • ระวังเรื่อง Leverage อย่ากู้เงินโบรกมาเทรดเยอะเกินไป จะทำให้เสี่ยงขาดทุนหนักกว่าเดิมหลายเท่า

จำไว้ว่าการเทรด Forex เป็นศาสตร์และศิลป์ ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์ และวินัย ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าทำได้ครบ ผสมผสานกันลงตัว โอกาสรวยก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนจ้า!

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Forex

กลับหน้าหลัก